รวมหนัง เจมส์ บอนด์ 007 James Bond 007 ข้างหลังกระทำการที่อิสตันบูลล้มหมดรูป เจมส์ บอนด์ (แดเนียล เคร็ก) ก็ล่องหนไปอย่างไร้ร่องรอย จนถึงใครๆมั่นใจว่าเขาเสียชีวิตแล้ว แต่ว่าสิ่งที่น่าขนลุกมากกว่าเป็นเอกสารลับที่จะระบุตัวสายเอ็มไอ 6 คนของหน่วยสืบราชการลับที่สหราชอาณาจักรกำลังถูกปลดปล่อยว่อนโลกออนไลน์ ทำให้ เอ็ม (จูดี เดนช์) ผู้อำนวยการของหน่วยงานโดนจับตามองอปิ้งหนักจากรัฐบาล
เมื่อหน่วยงานรวมทั้งผู้บัญชาการของเขาถูกจู่โจมไม่ยั้ง เจมส์ก็เลยแสดงตัวอีกที เืพื่อช่วยเอ็มหาข้อแก้ต่างสำหรับเพื่อการตามล่าตัว ราอูล สิลวา (ฮาเวียร์ บาร์เดม) คนร้ายตัวฉกาจที่อ้างตัวว่ามีความเกี่ยวพันที่ดีกับอีกทั้งเจมส์แล้วก็เอ็ม แม้กระนั้นยิ่งเจมส์สืบสวนใกล้ร่องรอยมากยิ่งขึ้นมากแค่ไหน เขาก็พบว่าความซื่อสัตย์ที่มีต่อเอ็ม ผู้มีสมัยก่อนที่เต็มไปด้วยความลับ ก็ยิ่งลดลงแค่นั้น
ดูหนังใหม่ รวมหนัง เจมส์ บอนด์ 007 James Bond 007
Rebel Moon: A Child of Fire เล่าราวของอาณาจักรอันสงบบนขอบกาแลคซีถูกรุกรามโดยกองทัพเผด็จการ คอร่า หญิงสาวไม่คุ้นเคยลึกลับ แปลงเป็นความมุ่งหวังที่ยอดเยี่ยมสำหรับเพื่อการเอาชีวิตรอดของทุกคนในหมู่บ้าน คุณได้รับมอบหมายให้ออกค้นหาทหารที่ได้รับการฝึกอบรม เพื่อรวมเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันกับคุณสำหรับการยืนหยัดต่อสู้ร่วมทุกข์ร่วมสุขกับสิ่งที่ไม่มีทางเป็นไปได้ของโลกแม่ (Mother World)
โดยคุณสะสมทหารกรุ๊ปเล็กๆจากคนที่เป็นคนต่างบ้านต่างเมือง ผู้ก่อความปั่นป่วน ชาวไร่ชาวนา แล้วก็ลูกกำพร้าจากการสู้รบจากโลกต่างๆที่มีความต้องการด้วยกันสำหรับในการกู้รวมทั้งล้างแค้น เมื่อเงาของดินแดนทั้งสิ้นทาบทับลงบนพระจันทร์อย่างไม่น่าเป็นได้ การต่อสู้เพื่อโชคชะตาของกาแล็กซีดำเนินไป แล้วก็การต่อสู้นี้ทำให้กองทัพวีรบุรุษชุดใหม่ก่อตัวขึ้น
หนังประเด็นนี้นับว่าเป็นโปรเจกต์ยักษ์ใหญ่รวมทั้งทุนสร้างคงจะหนามากๆอีกทีของ แซ็ค สไนเดอร์ ที่เขารับหน้าที่ดูแลในหลายๆส่วน ไม่ว่าจะควบคุมหนัง ร่างเค้าเรื่อง ร่วมเขียนบทหนัง รวมทั้งอำนวยการสร้างกับเมียของเขา ทำให้นี่ก็เลยสำเร็จงานที่ใส่ร้ายป้ายสีเป็นตัวของเขาเองเอาไว้ได้อย่างเต็มเปี่ยม ขอเพียงแค่มีสตูดิโอหนังที่ให้พื้นที่เขาได้ละเลงงานสร้างอย่างอิสระแค่นั้นก็เพียงพอ
แน่ๆว่า Rebel Moon: A Child of Fire มีกลิ่นความเป็นมหากาพย์ไซไฟแบบจัดจ้า รวมหนัง เจมส์ บอนด์ 007 James Bond 007 มาในโทนรวมทั้งสไตล์ลักษณะเดียวกันกับพวกหนัง Star Wars อะไรทำนองนั้นเลย ก็แค่มันเป็นการตรวจสอบอวกาศรวมทั้งโลกใหม่ๆที่รอให้ผู้ชมได้ออกไปเสี่ยงภัยด้วย ทางด้านงานสร้างจัดว่าทำเป็นดีแทบทุกเม็ด งานละเอียด งานดีไซน์ยังมีลายเส้นความเป็นสไนเดอร์อยู่เยอะไปหมด แม้กระนั้น…
Lift ปล้นเหนือเมฆ
Lift ชิงทรัพย์เหนือก้อนเมฆ เล่ากระทำการของกลุ่มผู้ร้ายที่ตำรวจสากลอยากได้ตัวเป็นอย่างยิ่ง นำกลุ่มโดย ไซรัส ที่จะต้องโคจรมาเจอกับ แอบบี้ ผู้พิทักษ์สันติราษฎร์หญิงแล้วก็คู่รักเก่าของเขา ด้วยการร่วมแรงกับอุตสาหะหาทางลักขโมยทองแท่งราคาเป็นอันมากมาจากเจ้าพ่อคนมั่งมีอิทธิพล ที่ชอบถูกขนด้วยเรือบิน 777 ที่พวกเขาจำเป็นต้องลงมือระหว่างมันโบยบินอยู่เหนือฟ้า พร้อมด้วยพนันที่ยิ่งใหญ่กว่าที่คิด
นี่เป็นผลงานปัจจุบันของ “เฟลิกซ์ มึงปรี่ มึงปรี่” ผู้กำกับผิวสีหวนมาจับงานสร้างภาพยนตร์แอคชั่นขโมยสไตล์ถนัดของเขาอีกรอบ เพียงแต่ว่าตั้งแต่แมื่อผลงานจารกรรมมาสเตอร์พีชของเขาอย่าง The Italian Job หรือ Be Cool ออกฉาย มันก็ตั้งแต่เมื่อ 20 ปีได้แล้ว ทำให้สูตรสำเร็จรวมทั้งหนทางขับวิถีทางหนังของเขาที่ใส่เขามาในหัวข้อนี้ ค่อนจะเชยรวมทั้งเห่ย ไม่แตกต่างกับกำลังนั่งดูหนังเมื่อ 20 ปีกลายอะไรทำนองนั้นเลย
แปลงเป็นว่า Lift ชิงทรัพย์เหนือก้อนเมฆ ก็ออกมาเป็นเพียงแต่หนังชิงทรัพย์ธรรมดา มิได้มีอะไรหวือหวาแล้วก็เชิญชวนตื่นตาตื่นใจเล ส่วนประกอบต่างๆของหนังเสมือนยืมมาจากหนังปล้นในตอน 2 ทศวรรษ เอามายำรวมทั้งแต่งรสออกมาเป็นเมนู่จานชามใหม่ โดยที่แทบหาเสน่ห์ในตนเองไม่พบ บทหนังออกจะอ่อนเปียกตามสไตล์หนังสตรีมไม่งที่โยนทุนให้มาสร้างแบบนั้นๆมิได้เน้นย้ำรายละเอียด แต่ว่าไปเน้นย้ำงานสร้างซีจีที่ไม่สวยในฝั่งนั้นมากยิ่งกว่า
การมีอยู่ของ เควิน ฮาร์ท ในประเด็นนี้ก็เสมือนจะไม่จำเป็นที่จะต้องมีการได้ ด้วยเหตุว่าความเป็นซุปตาร์ของเขา แทบไม่เจิดแจ่มแจ้งออกมาเลยสักหน่อย แปลงเป็นว่าติดอยู่แรกเตอร์ที่เขาถือไว้อยู่ ค่อนข้างจะจืดจาง แล้วก็อินเนอร์ความเป็นผู้แสดงนำชายเกือบจะออกมาเลย ทั้งหนังที่ควรเอ็นหน้าจอยรวมทั้งสนุกสนาน แต่ไม่อาจจะตอบปัญหานั้นได้ ถึงแม้ว่าแต่ว่ากลุ่มผู้แสดงก็เอาไว้อยู่
หนังยังมีนักแสดงสมทบตัวเป้งๆอีกมากมาย ไม่ว่าจะเป็น “ฉันเรา เอ็มบาธา-รอคอย”, “เบิร์น กอร์แมน”, “ฌอง เรโน” หรือ “แซม เวิร์ธธิงตัน” แม้กระนั้นมันกลับไม่ช่วยเกื้อหนุนจุนเจือตัวหนังทั้งยังเรื่องได้เลย เนื่องจากว่าการที่หนังจับได้เพียงแค่สูตรสำเร็จแบบเฉิ่มๆเดิมๆที่ยังมีหนังขโมยที่สร้างความคูลได้ดียิ่งไปกว่านี้ให้มองอีกเพียบเลย น่าผิดหวังที่ Lift ชิงทรัพย์เหนือก้อนเมฆ หัวข้อนี้เต็มไปด้วยความคลินช์ตลอดทั้ง 100 นาทีที่เสิร์ฟมาให้
The Family Plan
The Family Plan กล่าวถึงชีวิตของ ดินแดน พ่อบ้านปกติที่ดำเนินชีวิตแสนเรียบง่ายอยู่ในบริเวณนอกเมืองของเมืองนิวยอร์ก แม้กระนั้นเมื่อสมัยก่อนอันแสนทารุณของเขาย้อนกลับมาเอาคืนอีกที ทำให้เขาต้องหาแนวทางที่จะคุ้มครองป้องกันครอบครัวที่เขารักที่สุด โดยที่พวกเขาก็ไม่รู้มาก่อนเกี่ยวกับสมัยก่อนอันลึกลับของผู้นำครอบครัว ที่คราวหนึ่งเขาเคยเป็นมือสังหารนิรนามตัวท็อปของแวดวง!
เอาจริงเอาจังๆมันก็เป็นหนังที่มองได้เพลิดเพลินดี ในด้านการหาคอนเทนท์สนุกสนานทั่วๆไป รวมหนัง เจมส์ บอนด์ 007 James Bond 007 หนังก็ยังเต็มไปด้วยกิริยาอาการที่สร้างความเอ็นหน้าจอยให้กับผู้ชมได้อย่างดีเยี่ยม แต่ว่าถ้าเกิดเป็นในด้านวิภาควิจารณ์หนังอย่างไม่อ้อมค้อมแล้วละก็ มันบางครั้งก็อาจจะไม่ใช่การเสพสุขที่ดีสักเท่าไหร่นัก เนื่องจาก The Family Plan ก็ยังดำเนินสะกดรอยหนังแอคชันครอบห้องครัวที่มีมาตลอดในตอน 20-30 ปีให้หลัง ทุกจุดรวมทั้งทุกก้าวเต็มไปด้วยสูตรสำเร็จแบบสำเร็จรูปแบบจับวางเอาไว้
โดยหนังได้ผู้กำกับจากแวดวงโทรทัศน์ “ไซมอน เคแลน โจนส์” มารับหน้าที่ดูแลหนังประเด็นนี้ โดยเหตุนั้นสเกลงานสร้างของหนังหัวข้อนี้มันก็จะออกมาใสๆกระจายๆแบบตามสไตล์หนังที่สร้างออกมาจากทางโทรทัศน์ราวๆนั้น ส่วนประกอบงานสร้างมิได้มีอะไรที่แปลกใหม่อะไรก็ตามก็เช่นเดียวกับหนังครอบครัวกลิ่นดิสนีย์นิดๆแม้กระนั้นก็มิได้ใสแจ่มกระจ่างเหลือเกิน แม้กระนั้นก็ยังคงในเรตที่เด็กมองได้คนแก่มองเพลิดเพลินอยู่
บทหนังได้ “เดวิด ค็อกเกอาลล์” จาก Orphan: First Kill มาปั้นเรื่องราวให้ แน่ๆว่าประสิทธิภาพของบทหนังก็คงมิได้เพอร์เฟ็คอะไรนัก หากมองผลงานก่อนๆของคนเขียนรายนี้ก็จะทราบดีว่าเขาเขียนบทหนังในสไตล์ที่ค่อนข้างจะเซฟโซนและไม่ค่อยสร้างความแปลกใหม่ออกมาให้กับผู้ชมสักเท่าไหร่ สิ่งเดียวกัน The Family Plan ก็จัดไว้อยู่ในหมวดพื้นที่ปลอดภัย หนังไม่ค่อยเดินออกนอกกรอบสักเท่าไหร่
หากว่าหนังจะมีองค์ประกอบเรื่องราวที่เชื้อเชิญบันเทิงใจ แต่ว่าโชคร้ายที่จังหวะการเล่าเรื่องของหนังติดเป็นหนังโทรทัศน์ยุคเก่าไปสักนิดสักหน่อย ซ้ำยังออกจะความกระชุ่มกระชวยสำหรับในการร้อยเรียงเรื่องราวไปสักนิด ถ้าว่าหนังสามารถกระชับได้ขึ้นอีกนิด ไม่ปลดปล่อยออกมาเป็นหนังครอบครัวบู๊เรื่อยเปื่อยเฉียดฉิว 2 ชั่วโมงอย่างงี้ คงจะมีอะไรที่อิมแพคต่อตัวหนังได้อยู่บ้าง เว้นแต่หลักสำคัญที่ดีแต่หาเนื้อได้น้อยนิด
Leave the World Behind
Leave the World Behind เกิดเรื่องราวในวันหยุดที่เฝ้าใฝ่ฝันของ อะแมนดา และก็ เคลย์ กับลูกๆวัยรุ่นของพวกเขา ที่เช่าห้องพักผ่อนตากอากาศรอบๆริมหาดนิวยอร์ก แม้กระนั้นถูกสอดแทรกด้วยการมาเยี่ยมของบิดาลูกผิวสีคู่หนึ่งที่แสดงตัวว่าเป็นเจ้าของบ้านข้างหลังดังที่ได้กล่าวมาแล้ว เนื่องจากว่ามีสถานะการณ์ไฟดับด้านในเมือง ตามมาด้วยอินเตอร์เน็ตใช้ไม่ได้ โทรศัพทไม่มีสัญญาณ ปลดปล่อยให้พวกเขาถูกตัดขาดจากโลกข้างนอกไปชั่วครู่
จนกระทั่งเสียงดังแปลกเกิดขึ้นอย่างน่าฉงนสงสัย เป็นตอนเดียวกับที่ รวมหนัง เจมส์ บอนด์ 007 James Bond 007 เหล่าสรรพสัตว์ต่างพากันย้ายถิ่นในด้วยกิริยาอาการแปลกๆยิ่งทำให้ครอบครัวนี้เริ่มตื่นตระหนกในทุกๆด้าน เปลี่ยนเป็นการผลิตกำแพงกันระหว่างผู้เช่าคนขาวกับเจ้าของบ้านชาวผิวสี ก่อตัวแวววาวไฟการรบทางความนึกคิดที่ตบตีกันจลาจลข้างในหัวรวมทั้งบริเวณตัวพวกเขา
“แซม เอสเมลล์” จากซีรีส์ Mr. Robot มารับหน้าที่ควบคุมดูแลงานสร้างภาพยนตร์หัวข้อนี้ แล้วก็ถือว่าเป็นผลงานหนังฟอร์มใหญ่ที่สุดตั้งแต่แมื่อเขาทำอาชีพนี้มา โดยเขายังรับหน้าที่ดัดแปลงปรับปรุงแก้ไขเขียนบทหนังหัวข้อนี้ด้วยตัวเองด้วย แน่ๆว่าภาพลักษณ์ของ Leave the World Behind คงจะจูงใจคนชอบดูหนังแนวหายนะรวมทั้งวันโลกแตกได้อย่างดีเยี่ยม เนื่องจากว่ามันเชิญติดต่อออกมาแบบนั้น แม้กระนั้นอย่าเพิ่งจะเชื่อใจไป เนื่องจากว่ามันสลับซับซ้อนและก็ลึกลับซับซ้อนซ่อนเงื่อนมากกว่าที่พวกเราคิดไว้
ใช่แล้ว มันเป็นหนังหายนะจิตวิทยาที่เบาๆนำข้อมูลใส่ความวายป่วงใส่ผู้ชมมาครั้งละเรื่อยมันเป็นหนังที่มีกลิ่นความเป็น เอ็ม.ไนท์. ชยามาลาน กับ จอร์แดน พีล หน่อยๆแต่ว่ามันบางครั้งก็อาจจะยังมิได้มีเสน่ห์รวมทั้งความน่าคลั่งไคล้ราวผลงานของคนเหล่านั้น โชคร้ายที่สุดด้านหลังมันเป็นแค่เพียงหนังที่เต็มไปด้วยอะไรที่เดิมๆกับช่องโหว่ของบทหนังที่ไม่แยบคายเอาเสียเลย
Wonka วองก้า
Wonka เกิดเรื่องราวสุดแสนอัศจรรย์ของนักเล่นกล นักคิดค้น รวมทั้งนักลงทุน ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลก ดูหนังออนไลน์ NETFLIX กว่าที่เขาจะก้าวเข้ามาเป็น วิลลี วองก้า ผู้ครอบครองโรงงานช็อกโกแลตอันสุดดีเลิศเช่นเดียวกันกับจำเป็นต้องมนตร์ ที่เวลานี้การเสี่ยงอันตรายในจุดเริ่มของเขาจะเป็นที่ปรากฏชัดต่อสายตาชาวโลก เพราะเหตุใดคนถึงรักเขามากมายเพียงนี้..จะเขาจะเบียวๆไปสักนิดก็ตามเหอะ
โดยในคราวนี้เป็นการแต่งตั้งของกลุ่มผู้ผลิตฝั่งอังกฤษแทบจะทั้งหมด ภายใต้การดูแลของ “พอล คิง” คนที่สร้างให้เจ้าหมี “Paddington” ที่ชีวิตชีวาและก็น่าคลั่งไคล้จนถึงแปลงเป็นสามภาค รวมทั้งหนังทำนองนี้แหละที่เปลี่ยนเป็นหนังแนวถนัดของเขาไม่น้อยเลย นับได้ว่าเป็นงานสร้างที่ได้ผู้ผลิตที่พอเหมาะพอเจาะกับผลงานอย่างดีเยี่ยม ทำให้ส่วนประกอบอะไรต่างๆมันช่างประหลาดเสียจริง
ถึงแม้นักแสดง วองก้า จะไม่ใช่อะไรแปลกใหม่สักเท่าไหร่ เพราะว่านี่เป็นผู้แสดงในตำนานจากความสามารถการปลุกเสกขึ้นมาของผู้เขียนระดับตำนาน “โรอาลด์ ดาห์ล” ที่โลกรู้จักกันดี พวกเราบางทีอาจจะคุ้นๆกับเวอร์ชันเมื่อเกือบจะ 20 ปีกลายที่ จอห์นนี เดปป์ เล่นเอาไว้ หรือฉบับคลาสสิกในปี 1971 ก็ยังคงประทับใจอยู่ในความจำ แต่ว่ามาในฉบับนี้นับได้ว่าเป็นตกแต่งแล้วก็เพิ่มเติมจินตนาการขึ้นมาอีกทาง ด้วยการเล่าถึงจุดเริ่มต้นแล้วก็ตัวตนของวองก้าในวันที่มีแต่ว่าตัว
พอล คิง ยังมารับหน้าที่วางพล็อตเรื่องและก็ร่วมเขียนบทหนังกับ “ไมซอม ฟาร์นาบี” ที่เคยร่วมงานกันมาแล้วจากใน Paddington 2 ที่ถือได้ว่าเป็นแต่งตั้งบทหนังที่ออกจะย่อยและก็มองง่าย ซ้ำยังเต็มไปด้วยจังหวะที่เชิญชวนบันเทิงใจไปได้ทั้งยังเด็กแล้วก็คนแก่อย่างเริงใจยิ่งหนัก แม้ว่าบทหนังจะมิได้มีอะไรที่แปลกใหม่อะไรก็แล้วแต่พล็อตค่อนข้างจะเชยด้วย แต่ว่าเนื่องจากด้วยการเล่าเรื่องที่ต้องใจผู้ชมก้าวหน้าตลอดทั้งเรื่อง ทำให้ส่วนประกอบนี้มันเหมาะเหม็งกับภาพรวมไปไม่น้อย
